-การตอบโดยมีความหมายเชิงปฏิเสธนั้น  จะไม่จบ  มีภาวะค้างคาใจ  จริงอยู่อาจจะไม่เป็นดังที่กล่าวหา  แต่เราควรเลือกตอบที่ทำให้ผู้ร้องเรียนรู้สึกว่ามีความเป็นจริงอยู่บ้าง(ต้องทำใจ)  แต่ไม่มีคุณค่าเท่ากับว่าจะปรับปรุงให้ดีมากขึ้น  เพราะถ้าคนเราไม่ยอมรับความจริงเขาไม่เชื่อหรอกว่าในอนาคตจะทำให้ดีขึ้นได้
-คนตอบต้องสมมุติว่าเราเป็นคนร้องเรียนด้วย

ด้วยข้าพเจ้า นางพิกุล  พรมเกตุ   ตำแหน่ง  รองผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง             ได้มีผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียน  ซึ่งได้ข้อสรุปประเด็นข้อความตามข้อร้องเรียน  ดังนี้                                         

๑.  เรื่องการพูดจาไม่สุภาพ  ไม่มีเหตุผล  วางอำนาจต่อว่าด่าทอผู้อื่น                                                          ๒.  แม่ค้าที่ขายของหน้าสหการสกปรก  ไม่สะอาด  ชอบดื่มเหล้า      

๓.  ครูขายของสหการไม่มีเวลาดูแลเด็กนักเรียนและไม่อยากทำสหการ

๔.  เครื่องกรองน้ำสกปรก

๕.  บริหารงานมาหลายปีไม่มีความคืบหน้า  ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน  ไม่เป็นระเบียบ  ไม่มีระบบ

ในการทำงานมีครูทนไม่ได้ขอย้ายจากโรงเรียน

          ดังนั้น  เพื่อให้เกิดความเข้าใจในหัวข้อที่ดิฉันจับประเด็น  เป็น ๕  ข้อ โดยขอชี้แจงเป็นข้อๆ ดังนี้

          ๑.  เรื่องพูดจาไม่สุภาพ  ไม่มีเหตุผล  วางอำนาจด่าทอต่อผู้อื่น  ก่อนที่ดิฉันจะย้ายมาอยู่โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง  ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา  เมื่อวันที่  ๒  ตุลาคม  ๒๕๕๒  ดิฉันเคยเป็นครูปฏิบัติการสอน          ที่โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง  ตั้งแต่ปี  ๒๕๔๔-๒๕๕๐  และได้สอบเปลี่ยนสายงานเป็นผู้บริหารสถานศึกษา  ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา  ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนเทศบาลวัดเหนือ  ตั้งแต่วันที่  ๑  ตุลาคม  ๒๕๕๐  และย้ายมาปฏิบัติหน้าที่โรงเรียนเทศบาลวัดป่าเรไร  เมื่อวันที่  ๑  ตุลาคม  ๒๕๕๒  ซึ่งในการย้ายโรงเรียนในแต่ละครั้งดิฉันไม่เคยเขียนคำร้องขอย้ายหรือมีปัญหากับผู้บริหาร  คณะครู  นักเรียน  ชุมชน แต่เป็นการบริหารจัดการจากกองการศึกษาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด  และได้รับมอบหมายงานจากผู้อำนวยการให้อยู่ฝ่ายวิชาการ  มีความตั้งใจที่จะทำงานให้ดีที่สุดเพราะเคยทำงานวิชาการมาตลอดก็ไม่ได้หนักใจ แต่การบริหารงานคนเป็นสิ่งที่ยาก  ที่พูดก็เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า  ยิ่งสูงยิ่งหนาว เพราะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่  ดิฉันก็ไม่ต้องศึกษาอะไรมากมาย  เนื่องจากดิฉันเป็นคนที่พูดเสียงดัง  กล้าคิดกล้าทำ  เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง  แต่ก่อนที่จะทำอะไรทุกครั้งก็ต้องปรึกษาผู้อำนวยการและผู้บริหารด้วยกัน  เมื่อความเห็นตรงกันดิฉันก็ไม่ลังเลที่จะทำงาน  ซึ่งบางครั้งมันยาก   และมีผลกระทบที่ตามมา  แต่ถ้าทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนและนักเรียนได้รับประโยชน์สูงสุด ก็ไม่ลังเลที่จะดำเนินการ   มีมากมายไม่ว่าด้านงานบุคคล นักเรียนที่มีประพฤติไม่เหมาะสม  ดิฉันพยายามติดตามการทำงานของครู  จะมีการประชุมรายงานวางแผนทุกครั้งในการทำงาน มีการบันทึกการประชุม  ของหัวหน้าระดับ  หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้  ว่ามีปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง  ครู บางคนก็ยังไม่เข้าใจในระบบงานก็ต้องนิเทศติดตามเป็นพิเศษ                          ซึ่งดิฉันรับรองได้ว่าไม่เคยพูดจาด่าทอ  พูดจาก้าวร้าว  โดยใช้คำไม่สุภาพ   ดิฉันจึงเชิญเข้าพบในห้องทำงานเป็นการส่วนตัวโดยไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วยและแจ้งความคืบหน้าของการทำงานของทุกครั้ง สิ่งไหนดีก็ชมเชย สิ่งไหนต้องปรับปรุงแก้ไขก็ต้องพูดคุยกันตามเหตุผลตามภาระของงาน     ซึ่งดิฉันจะไม่ปล่อยจนกว่าจะได้รับคำตอบ  ซึ่งบางครั้งเราก็ท้อเหมือนกัน  เพราะคนต่างจิตต่างใจ  คนที่ตั้งใจทำงานก็ได้รับกำลังใจยกย่องชมเชยในที่ประชุม   แต่ก็มีครูบางคนต้องได้รับการนิเทศติดตามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะงานทางด้านวิชาการ  ยังไม่มีประสบการณ์ให้เกิดทักษะ   แต่เราก็ต้องทำให้ได้เพราะจะให้เขาได้พัฒนาตนเอง  ส่วนกับเด็กนักเรียนดิฉันจะเรียกประชุมเป็นระดับโดยเฉพาะ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕-๖  ระดับชั้นมัธยมศึกษา  ชี้แจงในห้องประชุมม่วงขาว  อาคารเอนกประสงค์   ในการประชุมผู้ปกครองก็ได้แจ้งเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยของโรงเรียนเพื่อรับทราบข้อปฏิบัติ  และได้มอบหมายให้ครูประจำชั้น ได้ชี้แจงติดตามความประพฤติของนักเรียนอย่างใกล้ชิด เมื่อมีปัญหาแก้ไขไม่ได้ต้องเรียกพบเป็นรายบุคคล  ให้โอกาสไม่ต่ำกว่า  ๓  ครั้ง  ถ้ายังไม่ปรับปรุงตัวก็จะเชิญผู้ปกครองมาพบและรับทราบปัญหาด้วยกัน   ซึ่งผู้ปกครองก็มีความเข้าใจและขอบคุณทางโรงเรียนด้วยซ้ำที่ช่วยดูแลบุตรหลานเป็นอย่างดี ไม่เคยที่จะพูดด่าทอนักเรียนตามที่สาธารณะหรือ           ต่อหน้าเพื่อน ๆ จะพูดตักเตือนอะไรต้องรับทราบในที่ประชุม  ให้เป็นภาพรวมแต่ถ้าขณะเดินดูความเรียบร้อยทั่วไป  ได้พบนักเรียนที่แต่งกายไม่เรียบร้อย  เช่น  ผมยาว  เสื้อลอยชาย  หรือทิ้งขยะไม่เป็นที่ก็จะตักเตือนทันที  โดยใช้คำพูดเหมือนผู้ใหญ่บอกเด็ก  บางครั้งก็ชี้แจงให้เหตุผล  เช่น  เล่นฟุตบอลขณะที่ฝนตกก็บอกให้ห่วงสุขภาพตัวเอง  ไม่ได้ใช้คำพูดที่ด่าทออย่างกล่าวมาแต่อย่างใด  

          ๒.  แม่ค้าขายของหน้าสหการสกปรกและไม่สะอาด  ชอบดื่มเหล้าเมา   ขอพูดถึงความเป็นมาของเรื่องนี้   คือ สหการโรงเรียน มีการประมูลพ่อค้าข้างนอกมาขายของจากสังเกตเมื่อเขาประมูลได้เขาต้องหาแนวทางทุกอย่างที่จะได้ทุนและกำไรมากๆ เวลาเปิดปิดทำการไม่เป็นเวลานักเรียนเดินเข้าออกสหการได้ทั้งวัน  ก่อนและหลังเดินแถวเข้าห้องเรียน  ก็แวะร้านสหการ  ดิฉันได้พูดคุยกับพ่อค้าบอกว่าเปิด-ปิด  เป็นเวลาได้ไหมถ้าทำแบบนี้เด็กไม่มีระเบียบวินัย  ถามคณะครูก็บอกว่าเด็กห้ามไม่ได้  ดิฉันก็เก็บเป็นข้อมูลไว้  ของที่นำมาจำหน่ายบางอย่างก็มีโทษไม่มีประโยชน์  เช่น  การจำหน่ายน้ำอัดลม  และของเล่นต่าง ๆที่ เด็กตัวเล็กๆ ชอบซื้อ  ทางโรงเรียนก็เรียกมาพบและพูดคุยว่าขายเป็นเวลาได้มั้ย  และของเล่นห้ามนำมาขายเขาก็ตอบตกลง  แต่ถ้าวันไหนเราไม่ไปดูเขาก็ทำเหมือนเดิม  แต่ถ้าเอาเวลาไปคุมสหการทั้งวันคงไม่มีเวลาทำอะไร  จึงได้มีการประชุมครูเป็นการปรึกษาว่าถ้าจะต้องทำสหการเองครูจะทำไหวไหม  ครูก็บอกว่าไม่มีเวลา  ดิฉันก็บอกว่าไม่เป็นไรจะจ้างคนมาขายแต่ครูคอยดูแล  ก็ยกตัวอย่างโรงเรียนเทศบาลวัดป่าเรไร  ว่าทำได้ดีและควบคุมขนมในการจำหน่ายได้  โรงเรียนติดต่อมา ได้ ๒ คน  ให้วันละ  ๕๐๐  บาท  โดยมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดูแลโครงการ (ทำเป็นโครงการสหการโรงเรียนฝ่ายกิจการนักเรียน  )  ดิฉันขออนุญาตผู้อำนวยการขอดูแลเอง  ถ้ากิจการไปได้ดีก็มอบหมายให้รองฝ่ายกิจกรรมนักเรียนดูแลต่อไป  ทำมาได้ประมาณ  ๒  เดือน  ครูที่เป็นเจ้าหน้าที่บอกว่าเลิกจ้างคนที่มาขายของเถอะเสียดายเงิน ครูเราสามารถทำได้   ก็มีการประชุมอีกทีก็ตกลงกันว่าจะให้นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพที่มาฝึกประสบการณ์ที่โรงเรียนตลอดทั้งปี                      เป็นผู้ช่วยขายก็ไม่ได้เกิดผลกระทบและได้ผลกำไร  ปีแรกเป็นเงินจำนวน  ๔๐๘,๐๐๐  บาท  ซึ่งโรงเรียนได้นำเงิน ไป มอบเป็นทุนการศึกษาและเป็นขวัญกำลังใจให้คณะครูที่จำหน่ายโดยพาไปทัศนศึกษาดูงานและนำมาบริหารจัดการในโรงเรียน เช่น  การปรับปรุงภุมิทัศน์โรงเรียนอีกมากมาย

          พอช่วงเปิดภาคเรียนที่  ๑  ปีการศึกษา  ๒๕๕๔  ดิฉันนัดประชุมครูฟังปัญหาที่พบเจอในปีที่ผ่านมา  และสอบถามพูดคุยกับครูว่างานหนักไหมและมีคณะครูบางท่านไม่สะดวกที่จะขอลาออกจากโครงการก็ได้  เรามีการประชุมเพื่อปรับปรุงภาคเรียน ก็มีครูขอลาออก  ๒  คน และมีครูขอสมัครใจเข้ามาช่วยเพิ่มอีก  ๕  คน  เราก็ดำเนินการต่อ

          เนื่องจากดิฉัน มีความเห็นใจคนที่เคยประมูลสหการได้  ให้มาขายน้ำและขนมโตเกียว  โดยเก็บเข้าสหการวันละ  ๑๕๐  บาท  และมีข้อตกลงกันคือเขาต้องช่วยเราดูแลทำความสะอาดหน้าบริเวณสหการโรงเรียน  แต่ดิฉันเห็นว่าเขายังขายของไม่เป็นที่เป็นทาง  จึงลงทุนทำโรงอาหารใหม่ และทำที่ให้เข้าเข้ามาขายในโรงอาหารเป็นสัดส่วน  แต่จากการประเมินเขาไม่ทำตามกติกาที่ตกลงกันไว้  คือ  ห้ามใช้แก้วพลาสติก  ให้ใช้แก้วที่สามารถล้างได้จะไม่มีปัญหาขยะและให้ขายของให้เป็นเวลาและเขาก็ไม่ได้ทำตามที่ตกลงกันไว้   และได้พูดกับเขาและโดยได้ตักเตือนหลายครั้ง และแจ้งว่าภาคเรียนที่ ๒/๒๕๕๔  ถ้าไม่ทำตามข้อตกลงจะให้เลิกขาย   เขาก็ไม่พอใจเท่าไหร่แต่เพื่อให้เป็นแบบอย่างก็ต้องทำตามระบบและจัดระบบให้โรงเรียนใหม่

          ขอพูดถึงแม่ค้าที่ขายหน้าห้องสหการโรงเรียนไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นภรรยาของนักการในโรงเรียน  วันนั้นก่อนปิดภาคเรียนที่ ๒/๒๕๕๓  นักการศิริชัย วงศ์มณีย์ (ขอเอ่ยนาม) ได้ไปปรึกษาผู้อำนวยการว่าขออนุญาตให้ภรรยามาขายของที่โรงอาหาร ผู้อำนวยการก็บอกให้มาปรึกษาฝ่ายบริหาร  ดิฉันก็สอบถามว่าแต่ก่อนทำอะไร  เขาก็บอกว่าขายของกับป้าที่โรงอาหารโรงเรียนสตรีศึกษา  แต่ตอนนี้ป้าเลิกขายแล้วดิฉันสงสารเห็นว่าสามีมีรายได้น้อยและลูกก็กำลังเรียนด้วยก็คิดหาแนวทางช่วยและบอกว่าที่โรงอาหารไม่เหมาะเพราะมีพ่อค้า-แม่ค้าแล้ว

เมื่อมีผลกระทบพอดีพ่อค้าขายน้ำออกจากหน้าห้องสหการ  ให้มาขายของหน้าสหการโดยเป็นของที่มีประโยชน์ลงทุนให้และจ้างวันละ  ๕๐๐  บาท  หาผู้ช่วยมาช่วยและห้ามจำหน่ายของที่กระทบกับสหการและพ่อค้าแม่ค้าในโรงอาหาร โดยดิฉันเรียกมาคุยและตรวจสอบรายการสินค้าทุกวันและให้ทุนไปได้กำไรเท่าไหร่ก็เข้าสหการ  และหักค่าแรงเอาวันละ  ๕๐๐  บาท  ก็จะมีกำไรวันละ  ๓๐๐-๕๐๐  บาท  ทุกวัน  ตอนนี้ก็มอบหมายให้เจ้าของโครงการรับผิดชอบ  แต่ก็ต้องตรวจสอบติดตามดูก็ไม่เห็นว่ามีใครดื่มเหล้า  ตามที่ครูเป็นเจ้าของโครงการรายงาน  เขาก็มีผ้ากันเปื้อนเวลาจำหน่ายสินค้า  พอได้รับหนังสือร้องเรียนก็สอบถาม ดิฉันได้เรียกนักการที่เป็นสามีมาพูดคุย  ก็รับประกันว่าไม่ได้ดื่มสอบถามคณะครูที่ร้านสหการก็ไม่เห็น ซึ่งทั้งคู่ตอบเป็นเสียงเดียวกัน ดิฉันไม่คิดว่าการที่เรามีความตั้งใจช่วยเหลือครอบครัวของบุคคลากรซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เขามีรายได้เลี้ยงครอบครัว  จะไปกระทบขัดผลประโยชน์ของใคร

          ๔.  เครื่องกรองน้ำสกปรก  เด็กไม่มีน้ำดื่มการที่โรงเรียนมีการบริหารจัดการจัดระบบให้นักเรียนมีระเบียบวินัย  โดยให้สหการเปิด-ปิด เป็นเวลานั้น  ดิฉันได้ประชุมคณะครูและนักเรียนก่อนหน้านี้แล้ว  และแจ้งรายละเอียดโดยเฉพาะเด็กชั้นมัธยมศึกษา  ต่อไปสหการจะไม่เปิดขายช่วงเช้า และปิดเวลา ๐๘.๐๐ น. นักเรียนควรบริหารจัดการเรื่องน้ำดื่ม  ซึ่งขณะนี้เรามีเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดที่เทศบาลสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อให้ โดยนำขวดมาจากบ้านเพื่อจะลองไว้ดื่มกิน  ถ้าใครอยากสะดวกก็ให้ซื้อที่สหการก่อนเวลาโรงเรียนขึ้น  เรื่องนี้นอกจากแจ้งให้นักเรียนทราบด้วยกัน  ดิฉันเอาออกมาแจ้งให้คณะครูประจำชั้นแจ้งนักเรียนแต่ละห้องอีก เมื่อมีเครื่องกรองน้ำเพิ่มอีก  ๒  เครื่องคงไม่พอสำหรับนักเรียนที่มีเป็นจำนวนมาก  ซึ่งได้มีการติดเครื่องกรองน้ำเพิ่มเติมและปรับปรุงล้างอันเดิมที่มีอยู่  และได้ดำเนินการติดเพิ่ม  ที่อาคาร ๓ อีก ๑  เครื่อง  และที่โรงอาหารเปลี่ยนเครื่องใหม่อีกแทนอันเดิม อีก  ๓  เครื่อง  และติดที่โรงครัวที่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จะนำไปประกอบอาหารอีก  ส่วนอาคารเอนกประสงค์ ได้จัดซื้อเครื่องทำน้ำเย็นใหม่  จากร้านที่ติดกับร้านรจนา  และมีรายละเอียดการงบประมาณจัดซื้อและซ่อมบำรุงสำหรับปีงบประมาณ  ๒๕๕๔  ดังนี้

          วันที่  ๑๕  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔      ล้างเครื่องกรองน้ำ ๘  เครื่อง       เป็นเงิน  ๗,๗๐๐  บาท

          วันที่  ๒๗  พฤษภาคม ๒๕๕๔      ซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่               เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐  บาท

          วันที่  ๓๑  พฤษภาคม ๒๕๕๔      ซ่อมแซมเปลี่ยนอุปกรณ์เพิ่มอีก     เป็นเงิน ๒๔,๗๘๕  บาท

          วันที่  ๒๙  มิถุนายน  ๒๕๕๔       ซื้อถังน้ำเย็นใหม่ที่ติดกับร้านรจนา เป็นเงิน ๑๘,๕๐๐  บาท

                                                          รวม                        เป็นเงิน  ๖๕,๙๘๕  บาท

          รายละเอียดตามที่ส่งมาพร้อมนี้สามารถตรวจสอบร้านค้าผู้ดำเนินการตามเบอร์นี้  ๐๘๘-๓๑๙๓๔๙๖  และผู้รับผิดชอบเครื่องกรองน้ำ  ๐๘๗-๘๖๗๔๔๓๖  จะเห็นได้ว่าโรงเรียนได้ใช้งบจากโรงเรียน  ซึ่งได้เงินจำหน่ายสหการบางส่วนดูแลเรื่องน้ำดื่มครู  นักเรียน  นอกจากที่เทศบาลจัดสรรให้เป็นไม่ใช่จำนวนน้อย และดิฉันไม่เข้าใจว่าคนที่พูดเขามีเจตนาอะไร  มีผลประโยชน์ทำไปเพื่อใคร

          ๕.  การบริหารงานมาหลายปี  ไม่มีอะไรคืบหน้าทางที่เป็นประโยชน์  มีครูทนพฤติกรรมไม่ไหวย้ายไปที่อื่น (พึ่งครบ ๒  ปี วันที่  ๒  ตุลาคม  ๒๕๕๔)

          จากการได้รับมอบหมายจากท่านผู้อำนวยการให้ดูแลด้านงานวิชาการ  โครงการ SBM และโครงการสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช่จ่าย  ๑๕  ปี  เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  เงินรายหัว  เงินค่าหนังสือ             เงินอุปกรณ์การเรียน และค่าชุดนักเรียน  เป็นผู้ดูแลและจัดระบบบริหารจัดการใช้เงินเพื่อให้เกิดประโยชน์ความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับนักเรียนและโรงเรียน  ผลงานด้านวิชาการคงเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าผลงานระดับประเทศ  ระดับภาค  ชื่อเสียงของโรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง  และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ  มีคณะขอศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง  บางหน่วยงานที่ทำหนังสือขอดูงานด้านวิชาการขอดูการบริหารจัดการ  ก็มีแต่คนชื่นชม  บางคณะก็ขอติดต่อเป็นการส่วนตัวเราก็ยินดี  คณะครูที่โรงเรียนรู้ดี  โครงการ SBM  ก็สร้างชื่อเสียง   คณะศึกษาดูงานมาเราก็รับด้วยความเต็มใจเป็นที่ประทับใจ  มีหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้  โครงการประกันคุณภาพ  ดิฉันรับผิดชอบโดยตรงเป็นการรวมงานวิชาการทั้งหมด  จากการประเมินของ สมศ. รอบ ๓ ก็ได้รับคำชมจากคณะกรรมการการประเมิน  ผลงานก็เป็นที่ประจักษ์  นอกเหนือจากงานที่ผู้อำนวยการมอบหมาย  ดิฉันเป็นคนไม่ดูดายก็ช่วยเหลืองานอื่นๆ ที่ผู้บริหารด้วยกัน  การจัดระบบงาน  การปรับปรุงอาคารสถานที่  ปรับปรุงภูมิทัศน์  และได้ประดับตกแต่งบริเวณโรงเรียน  ให้น่าอยู่  ปรับปรุงโรงอาหารใหม่  เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า จัดห้องทำงานเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้  ทำที่แปรงฟันนักเรียน  ปรับปรุงท่อระบายน้ำ  เพื่อไม่เกิดน้ำท่วมขัง  และอีกมายมาย  ในช่วงระยะเวลาที่อยู่มา  ๒  ปี เต็ม  ไม่เคยหยุดร่วมกับผู้บริหารพัฒนาโรงเรียน  โครงการในปีการศึกษาต่อไป   จะปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ทั้งหมดในโรงเรียน (ปีนี้ประมาณที่โรงเรียนหมดแล้ว) เพราะเราไม่เคยหยุดที่จะทำ

          ขอชี้แจงคำกล่าวที่ว่ามีครูทนไม่ได้ขอย้าย  จากการดิฉันมาอยู่ก็มีครูย้ายไปนั้นคือ นางสาวณัฐนันท์  สุ่มมาตย์  นางสาววิลาวัณย์  บุตรพรม  นายถาวร  สีพะรัง ว่า ๓  ท่านนี้  ไม่ได้ขอย้ายแต่เป็นการปรับอัตราตำแหน่งเพื่อจะดูแลซึ่งกันและกัน  ใน  ๗  โรงเรียน  ทางเราเสียดายมากเพราะทางเขาก็ไม่อยากย้าย  อีกคนคือนายพันศักดิ์  ชัยรักษา  ได้ขอย้ายกลับภูมิลำเนาที่บ้านอยู่จังหวัดหนองบัวลำภู  แต่ได้ย้ายไปที่จังหวัดหนองคาย และอีก ๒ คนที่จะกล่าวถึงเป็นครูที่ขอย้ายไปที่โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน คือ  นายพีระพงษ์  ธีระเผ่าพงษ์  และนางกาญจนา  ธีระเผ่าพงษ์  ดิฉันขอเอ่ยถึง ๒ คนนี้ที่ขอย้ายจริง  เนื่องจากดิฉันเตรียมจัดการเรียนการสอนเพื่อเตรียมไว้สำหรับปีการการศึกษา  ๒๕๕๔  ได้เชิญคุณครูกาญจนา  ธีระเผ่าพงษ์  มาพบแล้วแจ้งว่าโรงเรียนไม่ได้เปิดสอน สายไทย-สังคม แล้ว เพราะไม่เอื้อต่อการศึกษาต่อของนักเรียนระดับอุดมศึกษาทำให้โรงเรียนลดชั่วโมงสอนวิชาสังคมลง  ไม่มีชั่วโมงสอนและอีกอย่างครูกาญจนา   ไม่ได้จบเอกสังคมโดยตรงจะให้ไปสอน  ในระดับประถมศึกษาปีที่  ๖  แทนคุณครู        สุวิชชรักษ์  สุวิสอน  ที่จะเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด แต่ครูเขาขอสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น   และโรงเรียนก็ได้ชี้แจงให้เข้าใจว่ามีครูสอนครบทุกชั้นแล้ว  แต่จะจัดชั่วโมงในสาระเพิ่ม   แต่เขาไม่ตกลง   ถ้าสอนม.ปลายไปไม่ตรงเอกจะสอบไม่ได้  ผู้บริหารมีความผิดแน่นอน เมื่อมีคนตรวจสอบหรือ สมศ. ตรวจสอบ  และหลังจากนั้น ๒ วัน  ก็มาขอยื่นใบลาออกพร้อมกับครูพีระพงษ์  ธีระเผ่าพงษ์  ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุนอกจากย้ายตามภรรยา  นี่คือเหตุผลที่ครูขอย้ายที่กล่าวมาสามารถตรวจสอบจากเจ้าตัวได้  ในเมื่อดิฉันรับผิดชอบ งานวิชาการ จะต้องจัดครูเข้าสอนให้ถูกต้องครบตามหลักเกณฑ์  นอกนั้น  ก็ไม่มีครูคนไหนขอย้าย  ซึ่งจาการประชุมประจำเดือนผู้อำนวยการได้สอบถามทุกครั้ง  ถ้าไม่สะดวกก็ให้ทำเรื่องย้ายผ่านไปที่กองการศึกษาโดยตรง   การบริหารงานเรากล้าบอกได้ว่าทำทุกอย่างอย่างเปิดเผยตรวจสอบได้  ดิฉันมีเรื่องที่จะพูดมากมายแต่เนื่องจากนี้ก็มากแล้วกลัวอ่านไม่ไหว และกล้าที่จะรับผิดชอบคำพูดที่ตัวเองชี้แจงไปทั้งหมด  ไม่ทราบว่าเจตนาของคนที่ทำเรื่องนี้ทำเพื่ออะไร   ดิฉันเป็นคนที่มีน้ำใจนักกีฬาพอและเป็นคนที่มีเหตุผลกว่าคำพูดที่กล่าวมารุนแรงมากในชีวิตการรับราชการ  ซึ่งจำได้ว่ารับราชการมา  ครบ  ๓๑  ปี  ไม่เคยมีเรื่องราวไม่ว่ากับนักเรียน  ผู้ปกครอง  และไม่เคยกินแรงเพื่อนร่วมงาน ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านข้อความตามรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้มีความเข้าใจในสิ่งที่ได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด